Saturday, January 26, 2013

มหาเจดีย์ชัยมงคล จังหวัดร้อยเอ็ด

ตั้งอยู่ หมู่ 6 ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเด็ด ประวัติและความเป็นมาของวัดเจดีย์ชัยมงคล เนื่องด้วย เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2528 ซึ่งเป็นวันรวมกฐินสามัคคีของวัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) พระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) ได้ปรารภกับที่ประชุมสงฆ์ และคณะศิษยานุศิษยของท่านว่าท่านได้รับพระบรมสารีริกธาตุมาเป็นกรณีพิเศษ แต่ยังไม่มีที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบจัดสร้างพระมหาเจดีย์ขึ้นที่เทือกเขาเขียว บริเวณวัดถ้ำผาน้ำทิพย์ (วัดผาน้ำย้อย) ครั้นต่อมาเมื่อมีการประชุมพระสังฆาธิการภาค 8-9-10-11 (ฝ่ายธรรมยุต) ที่วัดถ้ำผาน้ำทิพย์ (วัดผาน้ำย้อย) หลวงปู่ศรี มหาวีโร ได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุม ซึ่งมีเจ้าประคุณสมเด็จมหามุนีวงศ์เป็นประธานที่ประชุมได้มติให้หลวงปู่ศรี มหาวีโร เป็นผู้นำในการก่อสร้าง และได้ให้ใช้ชื่อว่าพระมหาเจดีย์ชัยมงคล โดยทุนเริ่มแรกที่ใช้ในการเริ่มก่อสร้างได้มาจากการให้มีการทอดผ้าป่าทั่วภาคอีสาน 19 จังหวัดเป็นทุนเริ่มต้น โดยการจัดในครั้งแรกนี้ได้จัดให้มีการทอดผ้าป่า เป็นจำนวน 84,000 กอง กองละ 1,000 รวมเป็นเงิน 84 ล้านบาท เป็นทุนเริ่มต้นและได้จัดให้มีการทอดผ้าป่า เป็นประเพณีตลอดมาอีกทุกๆ ปี พระเจดีย์ชัยมคลได้ออกแบบก่อสร้างโดยกรมศิลปากร เป็นศิลปผสมผสานของศิลปแบบอีสานและศิลปแบบไทยภาคกลาง เริ่มก่อสร้างวางศิลาฤกษ์และลงเสาเอกเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2531 เมื่อดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างในส่วนต่างๆ แล้วเสร็จ ในวันที่ 20 กรกฏาคม 2539 ได้จัดให้มีการทำพิธียกยอดฉัตรที่สร้างด้วยทองคำ นำ้หนักรวม 60 กิดลกรัม ต่อมาในวันที่ 3 พฤษภาคม 2540 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่ศรี มหาวีโร ได้ทำพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ที่หลวงปู่ได้รับมาเป็นกรณีพิเศษ และองค์ที่หลวงปู่ได้เดินไปรับมาจากสมเด็จพระสังฆราชของประเทศศรีลังกา รวมทั้งองค์สมเด็จพระสังฆราชของประเทศศรีลังกาได้อัญเชิญเสด็จมาส่งให้ด้วยพระองค์เอง อัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ มหาเจดีย์ชัยมงคลบนชั้นที่ 6 เพื่อให้พุทธศาสิกชนทุกคนได้เคารพกราบไหว้ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตของตนตลอดไป เจดีย์สูงมาก สามารถขึ้นไปโดยใช้บันไดจนชั้นบนสุดได้ บันไดทางขึ้นพระเจดีย์

Thursday, June 7, 2012

เทศกาลเที่ยวเมืองไทยปี 2555

"เทศกาลเที่ยวเมืองไทย" ปี 2555

(THAILAND TOURISM FESTIVAL : TTF 2012)
วันที่ 6 - 10 มิถุนายน 2555 เวลา 10.00 -- 21.00 น.
ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 -- 3 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค
เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

การส่งเสริมและการสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศเป็นภารกิจที่ สำคัญภารกิจหนึ่งของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยเฉพาะการส่งเสริมให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งในปี 2555 ททท. ได้กำหนดให้การส่งเสริมการเดินทางเชื่อมโยงเป็นหนึ่ง ในกลยุทธ์ของตลาดในประเทศโดยเน้นการสร้างการรับรู้ความเป็นเอกลักษณ์ของ พื้นที่ดังนั้นงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยจึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะแสดงถึง วัฒนธรรมประเพณีของแต่ละภาคและร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมของประเทศไทยให้คงสืบ ต่อไป นอกจากนี้ยังได้เสนอรูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย รวมทั้งสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมาแสดงในงานนี้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในประเทศ ตลอดจนสร้างความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในด้าน วิชาการและเผยแพร่ผลงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อีกทั้งตลอดจนเป็นกิจกรรมหนึ่งใน Miracle Thailand Year Amazing Thailand 2012 หรือ มหัศจรรย์เมืองไทย

วัตถุประสงค์

1. เพื่อนำเสนอสร้างการรับรู้ความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ในด้านเอกลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณีวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่นจากทุกภูมิภาคของประเทศ และปลูกฝังความภาคภูมิใจในความเป็นชาติ

2. เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการเดินทางเชื่อมโยงให้เกิดการเดินทางกระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

3. เพื่อนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวเด่นที่มีคุณภาพและน่าดึงดูดใจให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับตลาดในประเทศ

4. เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยวให้กับประชาชนทั่วไปและบุคคลใน สาขาอาชีพต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการตลาดสมัยใหม่ "Modern Marketing" "เที่ยวเทรนด์ใหม่ มหัศจรรย์เมืองไทย"
ผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย

1. จัดกิจกรรมตอบสนองกลยุทธ์หลัก ได้แก่ กลยุทธ์ส่งเสริมการเดินทางเชื่อมโยง กลยุทธ์สร้างการรับรู้ความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ กลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในมิติการเรียนรู้และประชาสัมพันธ์ "มหัศจรรย์เมืองไทย"

2. ประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เข้าชมงานไม่น้อยกว่า 180,000 คน

3. ผู้เข้าชมงานมีความพึงพอใจต่อการจัดงานของ ททท. ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70

4. ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมีความพึงพอใจที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับ ททท. ไม่น้อยกว่า 60

5. ผู้เข้าชมงานซื้อสินค้า/บริการทางการท่องเที่ยว ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และบริการ  ท่องเที่ยวเดินทางข้ามภูมิภาค ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60

6. จำนวน PAX ที่เป็นการเดินทางข้ามภูมิภาค ที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวขายได้ภายในงานไม่ต่ำกว่า 3,000 PAX

7. มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท

ข้อมูลเพิ่มเติม Click

Sunday, March 18, 2012

พวกเขาเท่ห์มาก



การปั่นจักรยานผจญภัยไปตามเ
ขาสูงชันแถบจังหวัด ตาก แม่ฮ่องสอน
เป็นระยะเวลา 3 อาทิตย์ นักปั่นทั้ง 3 คนจะแต่งตัวเป็นยอดมนุษย์ที่เด็กๆชื่นชอบ ระดมทุนรับบริจาคตามจุดต่างๆที่ผ่าน และนำรายได้ทั้งหมดบริจาค

cr: http://cyclingsuperheroes.com/

ททท. ครบรอบวันเกิด อายุครบ 52 ปี (เมื่อวาน 18/03/2555)



ททท. ครบรอบวันเกิดเมื่อวาน 18/03/2555 อายุครบ 52 ปี พอดีๆ วันนี้ก็มีกิจกรรมหลายอย่างที่ สำนักงานใหญ่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ครับ

Monday, February 13, 2012

เที่ยวประเทศสิงคโปร์

ทริปต่างประเทศที่อยากไปสัมผัสมานานแล้ว นั่นก็คือสิงค์โปร์นั่นเอง ประเทศนี้เป็นประเทศเล็กๆ นะครับ ขนาดใกล้เคียงกับเกาะภูเก็ตบ้านเรา อยู่ทางทิศใต้ของประเทศเรา ข้ามมาเลเซ๊ยไปก็ถึงแล้ว
การเดินทางเราก็ไปกับ Air Asia ครับ ค่าตั๋วก็ไม่แพง (ซื้อตอนมีโปรโมชั่น) ก็ไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ออกเดินทางตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2554 กลับ 4 ตุลาคม 2554

การเดินทางก็นั่ง Taxi ไป สนามบินแถวๆ หนองงูเห่านู้น รวมค่ารถ ค่าทางด่วนก็เกือบๆ 400 บาท (โหดร้ายมากๆ) ดีว่าไปหลายคน หารกันไป เหอะๆ (พูดแล้วเซ็ง)

พอไปถึงก็ชมสนามบินซะหน่อย สนามบินของเราก็ใหญ่โตครับ ติดอันดับสนามบินที่ดีที่สุดในโลกด้วย (อันดับ 8 มั้งถ้าจำไม่ผิด) ก็มีศิลปะบ้านเราประดับสนามบินที่น่าดูชมหลายอย่าง ตามภาพเลยครับ



ยักษ์มีหลายตัวทีเดียว มีประวัติคร่าวๆ แต่ละตัวให้อ่านเรียบร้อย



ส่วนอันนี้ น่าจะเป็นพิธีกวนเกษียรสมุทรของเหล่าเทวดา และยักษ์ ก็เพลินตาดี มีของปลกๆ ให้ชม ก่อนเดินทางไป ตปท. การเดินทางเที่ยวนี้ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงแล้ว อากาศที่นู่นมันออกจะคล้ายๆ บ้านเรานะ ออกจะร้อนหน่อยๆ คนก็เห็นเป็นพวกคนจีน กับ อินเดียเป็นส่วนใหญ่ การคมนาคมในประเทศจัดว่าดีมาก ให้ 5 ดาวเลย มีรถไปฟ้าเชื่อมต่อไปได้แทบจะทุกจุดของประเทศ ตัดปัญหารถติดไปได้เลย



มีหลายสาย หลายสี แต่เชื่อมต่อกันหมดล่ะ การซื้อตั๋วก็มีทั้งแบบเติมเงิน และแบบเหมาๆ
แบบเติมเงินก็แบบรถไฟฟ้า BTS บ้านเรา ไปหยอดตู้รับบัตร (มีค่ามัดจำ 1$) stamp บัตรเข้าออกรถไฟ เพื่อเดินทาง แล้วเติมเงินในบัตรได้เรื่อยๆ ถ้าต้องการ
แบบเหมาๆ ก็ซื้อบัตร Singapore Tourist Pass มีจำหน่ายที่บางสถานีนะ ก็จะใช้กี่เที่ยวก็ราคาเดิม จะซื้อกี่วันก็ว่าไป ใช้ได้ทั้งกับรถไฟฟ้าและรถเมล์ เดินทางขึ้นๆ ลงๆ ไปทั่วๆ แบบนักท่องเที่ยวจะคุ้มมากๆ (หมดปัญหาลงผิดป้าย)



บ้านเมืองเขาก็สะอาดดีนะ แต่ก็มีบางจุดที่เลอะเทอะเหมือนกัน แต่น้อยมาก



ตัวนี้ Merlion สัญลักษณะประจำชาติเขาล่ะ





Highlight ของ Trip นี้เห็นจะเป็น USS (Universal Studio นั่นเอง) ค่าเข้าชมประมาณ 1300 บาท พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง มีอะไรให้เล่นฟรีในนั้นเยอะ



จากการสำรวจ เดินเกือบค่อนประเทศ พบว่าสิงค์โปรมีแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดจากการสร้างขึ้นมาเป็นส่วนใหญ่ ทั้ง Merlion ที่ Marina Bay, Flyer, USS ฯลฯ ซึ่งพบว่าเขาทำออกมาได้ยิ่งใหญ่ และ Hightech ดีมากๆ เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด การใช้พื้นที่จึงมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากๆ



แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติน้อยมากๆ การเข้าชมก็เป็นแบบไปดูให้รู้ให้เห็นเท่านั้น ไม่ได้ไปแบบซึมซับอะไรมากมายนัก จึงใช้เวลาสั้นๆ ในแต่ละจุดก็จบล่ะ ไปไม่กี่วันก็ครบเสร็จสิ้นกระบวนความ



ต่างจากบ้านเราที่มีที่เที่ยวเยอะแยะ แต่ละที่ก็ไปนอนแช่ดูดกลิ่นอายธรรมชาติ วัฒนธรรมได้เป็นเดือนๆ เลยทีเดียว เสียอย่างเดียว การคมนาคมของเรายังไม่ค่อยดี กรุงเทพก็รถติดมากกกกก ตจว. ก็ต้องหาทางไปกันเอง ไม่มีรถไปก็ยาก หรือ ไม่ก็ต้องเหมาไปเท่านั้น …



อ้อ มีอีกอย่างที่อยากจะบอก คนสิงค์โปร์เขาดูแลนักท่องเที่ยวดีนะ ถามใครก็ช่วยเหลือหาคำตอบ ยิ้มแย้มแจ่มใสน่าประทับใจ ใช้ภาษาอังกฤษกันได้ซะส่วนมากด้วย ย้อนมาดูบ้านเราสยามเมืองยิ้ม ทุกวันนี้ยิ้มไม่ค่อยจะออกกัน เรื่องบริการอย่าชะล่าใจสิงค์โปร์ก็ทำได้ดีไม่ใช่น้อย หันมามองบ้านเรามันถอยหลังสวนกันเลย น่าเป็นห่วงจริงๆ



Singapore Tourist Pass ใช้ขึ้นรถไฟฟ้า และรถโดยสารไม่จำกัดจำนวนเที่ยว แผนที่การเดินรถ ลองกดเพื่อขยายดูครับ



สรุปการเดินทางไปเยือนสิงค์โปรเที่ยวนี้ ก็ถือว่าโอเคครับ คุ้ม ได้ไปเปิดหูเปิดตา การจัดการการท่องเที่ยวของบ้านเขาให้ 4.5 ครับ (เต็ม 5) ขาด 0.5 เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวยังไม่หลากหลาย ซึ่งเกิดจากข้อจำกัดด้านพื้นที่ขงเขานั่นเอง ส่วนอย่างอื่นๆ ให้เต็มหมดครับ ถ้าสนใจไปเที่ยวก็ขอแนะนำเลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน

Monday, January 17, 2011

เที่ยวอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม



ตลาดน้ำใกล้กรุงเทพฯ อ.อัมพวา จ. สมุทรสงคราม “ตลาดน้ำอัมพวา”
การเดินทาง : 1.ทางรถยนต์ จากตัวจังหวัดใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 325 ทางเดียวกับไปอำเภอดำเนินสะดวกและอุทยาน ร.2 ประมาณ 6 กม ก่อนถึงสามแยกไฟแดง มีทางแยกทางซ้ายเข้า อ.อัมพวา ไปอีกประมาณ 800 เมตร ทางแยกซ้ายมือ เข้าตลาดอัมพวา จอดรถฟรีบริเวณด้านข้างอุทยาน ร.2 หรือหาที่จอดบริเวณใกล้ตลาดน้ำ มีบ้านเปิดให้บริการที่จอดรถ ราคา 20-40 บาท
2.รถประจำทาง  จากสถานีขนส่งสายใต้ รถสาย 996 กรุงเทพฯ-ดำเนินฯ เป็นรถปรับอากาศ ผ่านจังหวัดสมุทรสงคราม ถึง ตลาดอัมพวา สาย 976 กทม.-สมุทรสงคราม ถึงสถานีขนส่งสมุทรสงคราม ขึ้นรถประจำทางสาย 333 แม่กลอง-อัมพวา-บางนกแขวก ถึงตลาดอัมพวา
3.รถตู้ ขึ้นที่อนุสาวรีย์ชัยฝั่งถ.พหลโยธินใต้ทางด่วน ไปอัมพวาเป็นรถตู้สาย กทม-แม่กลอง  ค่ารถขาไป 70 บาท  ตั้งแต่ 6.25-20.00 น. ค่ารถขากลับ 60 บาท  ตั้งแต่  5.30-19.00  น. (รถจอดแถวตลาดแม่กลอง) ลงที่ตลาดแม่กลอง แล้วเดินมาแถวตลาดจะมีคิวรถสองแถวสายที่ไปโรงเจตรงตลาดน้ำอัมพวา ค่ารถ 10 บาท

“ตลาดน้ำอัมพวา” เป็น ตลาดน้ำยามเย็นที่คงเสน่ห์ตลอดมา เดิมเพื่อให้คนที่มาเดินเล่นตลาดน้ำ หาของทานเล่น ซื้อของฝาก และนั่งเรือชมหิ่งห้อยริมแม่น้ำแม่กลองยามค่ำคืน โดยระหว่างที่รอให้พระอาทิตย์ตกดิน ในช่วงบ่ายท่านสามารถเดินชมของตกแต่งบ้าน ของกระจุกกระจิก เสื้อผ้า ขนมไทย ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ ทะเลเผา (หอยเชลล์ประมาณ 5-6 ตัว 30 บาท) ผัดไทย กุ้งอบวุ้นเส้น ยำต่าง ๆ ขนมกินเล่น ผลไม้ ราคาย่อมเยาว์ ปัจจุบันตลาดยังคงเปิดตั้งแต่วันศุกร์ช่วงเย็น และวันเสาร์-อาทิตย์ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ร้านจะเปิดครบก็ประมาณช่วงเที่ยงครึ่ง หากใครต้องการเดินแบบสบาย ๆ คนไม่เยอะมาก ก็ต้องรีบไปหน่อย สามารถเริ่มปฏิบัติการได้ตั้งแต่ช่วงใกล้เที่ยง เนื่องจากหลังเที่ยงเป็นต้นไปคนจะเยอะมาก และถ้าที่จอดรถฟรีที่บริเวณอุทยาน ร.2 เต็ม ก็สามารถไปจอดรถที่เปิดให้บริการแบบเสียเงิน ราคาประมาณ 20-40 บาท ก็สบายดี
     หรือหากใครได้ชิม ชม ช้อปเรียบร้อยแล้ว  หากต้องการทัวร์ไหว้พระ 9 วัด เพื่อเป็นสิริมงคลก็สามารถทำได้ โดยต้องจัดสรรเวลาให้ดี เนื่องจากแถวอัมพวามีวัดใกล้ ๆ กันหลายวัด เช่น
     -  วัดเพชรสมุทรวรวิหาร (หลวงพ่อบ้านแหลม)
     -  วัดบางกะพ้อม (วิหารทรงจีน)
     -  วัดจุฬามณี(สักการะสังขารหลวงพ่อเนื่อง)
     -  วัดภุมรินทร์กุฎีทอง (กุฎีทอง สมัย ร.1) 

      -  วัดศรัทธาธรรม (โบสถ์ไม้สักฝังมุก)
     -  วัดบางแคใหญ่ (ภาพวาดฝาผนังวิถีไทย สมัย ร.2)
     -  วัดบางแคน้อย (โบสถ์ไม้แกะสลักทั้งหลัง)
     -  วัดบางกุ้ง (สักการะหลวงพ่อนิลมณี ในโบสถ์ปรกโพธิ์ ปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งโพธิ์ ไทร ไกร และกร่าง หนึ่งใน UNSEEN THAILAND)
     -  วัดอัมพวันเจติยาราม/วัดอัมพวา (ติดกับอุทยาน ร.2)
และสำหรับโบสถ์คริสต์ “อาสนวิหารพระแม่บังเกิด” ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่สวยงาม
    สำหรับร้านอาหารริมแม่น้ำแม่กลอง จากอุทยาน ร.2 ขับรถมาเรื่อย ๆ ด้านซ้ายมือ ขอแนะนำ “บ้านทิพย์สวนทอง” บริการอาหารสุขภาพ มีน้ำเพื่อสุขภาพด้วย รสชาติดี ราคาอาหารไม่แพง มีที่จอดรถสะดวกสบาย หรือถ้าใครต้องการพักสามารถพักค้างคืน ตอนเช้ามีใส่บาตรหน้ารีสอร์ท

แก่งกระเบา จังหวัดมุกดาหาร

ช่วงน้ำลด ณ แก่งกระเบา
ช่วงน้ำลด ณ แก่งกระเบา
แก่งกระเบา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่บ้านนาแกน้อย ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ลักษณะเป็นแก่งอยู่ในลำน้ำโขง เมื่อน้ำโขงไหลผ่านจะมีการกัดเซาะหิน เกิดเป็นเกาะแก่ง หรือ ถ้ำใต้นำจำนวนมาก เมื่อน้ำลดจึงมองเห็น ร่องรอยเหล่านั้น เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ภายในแก่งกะเบามีร้านอาหารที่ขึ้นชื่อริมแม่น้ำโขง เป็นจุดชมวิว 2 ฝั่งโขง
แก่งกระเบา
พอน้ำโขงลดก็จะเห็น ส่วนที่เป็นพื้นดินโผล่ขึ้นมา กลางแม่น้ำ สามารถเดินลงไปเดินเล่นได้

  
แก่งกระเบา
แก่งกระเบา
ริมฝั่งแม่น้ำโขง แก่งกระเบา
ริมฝั่งแม่น้ำโขง แก่งกระเบา
ช่วงน้ำลด เราจะมองเห็นทัศยียภาพที่แตกต่างกันจากฤดูน้ำหลาก

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Powered by Blogger